KNOWLEDGE

คู่มือดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้ ให้ใช้งานได้นานและปลอดภัย

ธ.ค. 2, 2025

การดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน

พื้นรองเท้าเซฟตี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องเท้าและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในการทำงาน โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรมและงานก่อสร้าง การให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้ไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งานของรองเท้าเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้งาน แต่จะมีวิธีไหนบ้างที่สามารถช่วยรักษาพื้นรองเท้าให้อยู่ในสภาพดีได้ยาวนาน เรามีเคล็ดลับและขั้นตอนที่ทำได้ง่าย ๆ มาแนะนำ 

 

ทำไมการดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้จึงสำคัญ ?

 

ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม โกดัง หรือไซต์งานก่อสร้าง รองเท้าเซฟตี้ถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพื้นรองเท้าเซฟตี้ ซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นผิวโดยตรงและรับแรงกระแทกมากที่สุด การละเลยการบำรุงรักษาจึงส่งผลกระทบมากกว่าแค่เรื่องความสวยงาม แต่ส่งผลต่อความปลอดภัยและต้นทุนด้านค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ 

 

ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ

 

พื้นรองเท้าที่สึกหรอย่อมส่งผลต่อคุณสมบัติในการยึดเกาะพื้นขณะปฏิบัติงาน อีกทั้งร่องดอกยางที่ตื้นเมื่อสัมผัสกับพื้นผิวที่แข็งกระด้างจากความร้อนหรือสารเคมี อาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานลื่นล้ม หรือเสียการทรงตัวได้ง่าย นำไปสู่การบาดเจ็บรุนแรง การตรวจสอบและดูแลพื้นรองเท้าอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นมาตรการเชิงรุกในการป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นไถล ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน

 

ยืดอายุการใช้งานของรองเท้า

 

การทำความสะอาดและดูแลพื้นรองเท้าอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญของการยืดอายุอุปกรณ์ป้องกันขณะปฏิบัติงาน เพราะหากปล่อยให้เศษดิน น้ำมัน หรือสารเคมีกัดกร่อนติดอยู่ที่พื้นรองเท้าเซฟตี้เป็นเวลานาน จะเร่งให้รองเท้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การดูแลที่ถูกวิธีจะช่วยป้องกันการสึกหรอ และลดการแตกหักของส่วนประกอบต่าง ๆ ของพื้นรองเท้า ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการจัดซื้อรองเท้าคู่ใหม่ก่อนเวลาอันควร

 

รักษาประสิทธิภาพการป้องกัน

 

พื้นรองเท้าเซฟตี้ไม่ได้มีไว้แค่กันลื่นเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัวตามมาตรฐานงาน เช่น คุณสมบัติช่วยกันแรงกด (Compression Resistance), ทนทานต่อการทะลุทะลวง (Puncture Resistance), การทนทานต่อสารเคมี หรือการป้องกันไฟฟ้าสถิต (Anti-static) หากพื้นรองเท้าเสียหาย ประสิทธิภาพการป้องกันเหล่านี้จะลดลงทันที ทำให้ผู้ปฏิบัติงานต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากวัตถุมีคม การกระแทก หรือการสัมผัสกับสารอันตรายโดยตรง

 

เพิ่มความสบายและสมรรถภาพในการทำงาน

 

พื้นรองเท้าเซฟตี้ที่อยู่ในสภาพดีและสมบูรณ์จะช่วยกระจายน้ำหนักและลดแรงกระแทกของข้อต่อขณะเดิน ยืน หรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ การทำงานในรองเท้าที่ชำรุด เช่น พื้นบุบยุบ หรือโครงสร้างบิดเบี้ยว ย่อมทำให้เกิดอาการปวดเท้า ปวดหลัง และลดทอนสมรรถภาพในการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน

 

ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร

 

การดูแลอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ จะสะท้อนถึงความใส่ใจด้านความปลอดภัยอย่างจริงจังของทั้งผู้ปฏิบัติงานและองค์กร การที่พนักงานตระหนักถึงการดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้อย่างถูกวิธียังเป็นการสร้างทัศนคติเชิงบวกต่อการป้องกันและส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยที่เข้มแข็งในสถานที่ทำงาน

 

การดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้ให้ปลอดภัยและยาวนาน

 

การดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดอายุการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อน เพียงแค่อาศัยความสม่ำเสมอและความใส่ใจในรายละเอียดต่อการดูแลวัสดุของพื้นรองเท้า เมื่อทำเป็นประจำก็จะช่วยรักษาสภาพพื้นรองเท้าให้อยู่ในสภาพที่ดีได้ยาวนาน 

 

ทำความสะอาดพื้นรองเท้าอย่างสม่ำเสมอ

 

  • กำจัดสิ่งสกปรกหลัก : หลังจากการใช้งานในแต่ละวัน ควรใช้แปรงแข็งหรือไม้กวาดขนาดเล็กปัดหรือขูดดิน โคลน หรือเศษตะกอนที่ติดอยู่ตามร่องดอกยางออกให้หมด
  • ล้างทำความสะอาดรองเท้า : หากพื้นรองเท้านิรภัยเปื้อนน้ำมัน จาระบี หรือสารเคมี ควรรีบใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่รุนแรงเช็ดออกทันที โดยหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง เพราะอาจทำลายวัสดุพื้นรองเท้าได้
  • การผึ่งแห้ง : หลังจากทำความสะอาด ควรนำรองเท้าไปผึ่งลมจนแห้งสนิท ห้ามนำไปตากแดดโดยตรง หรือใช้เครื่องทำความร้อนเป่า เพราะความร้อนสูงจะทำให้วัสดุของพื้นรองเท้า (โดยเฉพาะยางและ PU) เสื่อมสภาพ แข็งตัว และแตกร้าวได้ง่าย

 

เก็บรักษาอย่างถูกวิธี

 

  • สภาพแวดล้อมการเก็บรักษา : ควรวางรองเท้าในที่แห้งและเย็น อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้นและกลิ่นอับ
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีและอุณหภูมิสูง : ห้ามเก็บรองเท้าไว้ใกล้กับแหล่งความร้อน เปลวไฟ หรือพื้นที่ที่มีไอน้ำมัน กรด หรือด่าง เพราะสารเหล่านี้จะเร่งให้วัสดุพื้นรองเท้าเซฟตี้เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ 
  • การรักษาทรง : หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรยัดกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือใช้ที่ดันทรงรองเท้า เพื่อช่วยให้พื้นรองเท้าคงรูปเดิม ไม่บิดเบี้ยว

 

ตรวจสอบสภาพรองเท้าเป็นประจำ

 

  • รอยสึกหรอของดอกยาง : ตรวจสอบว่าดอกยางสึกจนถึงระดับที่ลดคุณสมบัติการกันลื่นหรือไม่ หากร่องดอกยางตื้นมาก ควรพิจารณาเปลี่ยน
  • รอยแตกหรือรอยแยก : สังเกตรอยแตกเล็ก ๆ บริเวณขอบพื้นรองเท้าหรือบริเวณที่พื้นรองเท้าเชื่อมต่อกับตัวรองเท้า รอยแยกเหล่านี้อาจเป็นช่องทางให้น้ำ สารเคมี หรือวัตถุมีคมเข้าสู่ภายใน
  • ส่วนที่หลวมหรือแยกตัว : ตรวจสอบว่าพื้นรองเท้าแยกตัวออกจากตัวรองเท้าหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนใดหลุดหรือหลวม ควรซ่อมแซมทันที หรือเปลี่ยนรองเท้าหากเกิดความเสียหายรุนแรง
พื้นรองเท้าเซฟตี้ดูแลอย่างไร ให้ใส่ทำงานได้ปลอดภัย

เคล็ดลับการเลือกรองเท้าและพื้นรองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะกับลักษณะงาน

 

การดูแลพื้นรองเท้าเซฟตี้ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ คือหัวใจสำคัญของการปกป้องเท้าในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง หากใช้อย่างถูกวิธีและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและคงคุณสมบัติการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

1. เลือกรองเท้าให้เหมาะกับประเภทงาน

 

เริ่มต้นจากการเลือกพื้นรองเท้าเซฟตี้และวัสดุที่ตรงกับลักษณะการทำงาน เช่น งานที่มีความชื้นสูงควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นพิเศษ หรือหากทำงานในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง ควรเลือกพื้นรองเท้าที่ทนความร้อนได้ดี เพื่อการป้องกันที่ตรงจุดและให้ความปลอดภัยได้สูงสุด

 

2. เปลี่ยนรองเท้าเมื่อพื้นเริ่มสึกหรือชำรุด 

 

แม้รองเท้าจะดูยังสวมใส่ได้ แต่หากพื้นรองเท้าเซฟตี้เริ่มสึก เสียรูป หรือแตกร้าว ควรเปลี่ยนทันที เพราะการยึดเกาะและการป้องกันแรงกระแทกจะลดลง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นล้มหรือบาดเจ็บได้

 

3. ใช้อุปกรณ์เสริมช่วยยืดอายุพื้นรองเท้า

 

การเสริมด้วยอุปกรณ์เล็ก ๆ เช่น แผ่นรองกันลื่น หรือแผ่นรองเสริมในรองเท้า สามารถช่วยลดการสึกหรอของพื้นรองเท้าเซฟตี้ และเพิ่มความสบายในการสวมใส่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานานในแต่ละวัน

 

มั่นใจทุกย่างก้าว เลือกรองเท้า Safety คุณภาพสูงจาก Esco Premium

 

ความปลอดภัยของพนักงานคือการลงทุนที่ยั่งยืน อย่าปล่อยให้ความบกพร่องของการดูแลรักษาพื้นรองเท้าเซฟตี้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เลือกใช้รองเท้านิรภัยคุณภาพสูงจาก Esco Premium ที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานสากล เพื่อให้พื้นรองเท้าเซฟตี้ทำหน้าที่ป้องกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการทนต่อแรงกด การทนสารเคมี หรือคุณสมบัติการกันลื่น

 

สอบถามเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคาได้ที่ Esco Premium เพื่อให้พนักงานของคุณทำงานอย่างปลอดภัยในทุกสถานการณ์ และมั่นใจว่าการลงทุนในอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลจะคุ้มค่าสูงสุด 

 

สอบถามเพิ่มเติมหรือติดต่อขอใบเสนอราคาได้ที่

 

 

แหล่งอ้างอิง

 

  1. Essential Maintenance and Cleaning Tips for Safety Shoes. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 จาก https://mksafetyshoes.com/blog/essential-maintenance-and-cleaning-tips-for-safety-shoes/
  2. Maintaining and caring for safety shoes. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 จาก https://www.kprsafety.com.sg/maintaining-and-caring-for-safety-shoes-2/

Share this article

  • Line
  • Facebook
  • Email
  • Copy Link
Contact Us