KNOWLEDGE

ประเภทของหมวกนิรภัยที่ควรรู้ พร้อมวิธีเลือกใช้อย่างเหมาะสม

ก.ค. 2, 2025

การเลือกสีหมวกนิรภัยไม่มีกฎหมายกำหนดตายตัว แต่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีการตกลงใช้มาตรฐานสีที่เหมือนกัน

หมวกนิรภัยหรือหมวกเซฟตี้ (Safety Helmet) ถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) ที่มีความสำคัญสำหรับงานอุตสาหกรรมและงานก่อสร้าง เพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับศีรษะขณะทำงาน บทความนี้จะมาแนะนำความสำคัญของการใส่หมวกนิรภัยในแต่ละประเภท และวิธีการเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ที่กำลังปฏิบัติงานทุกคน

 

หมวกนิรภัยคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ?

 

หมวกนิรภัยเป็นอุปกรณ์เซฟตี้ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันศีรษะจากการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากวัตถุตกใส่ การกระแทก รวมถึงการสัมผัสกับกระแสไฟฟ้า ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการรักษาความปลอดภัยของเหล่าคนทำงานในสถานประกอบการ

 

ซึ่งตามกฎหมายความปลอดภัยและอาชีวอนามัย นายจ้างมีหน้าที่จัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลให้แก่ลูกจ้าง เช่น หมวกนิรภัยสำหรับงานที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ศีรษะ การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้อาจส่งผลให้เกิดโทษทางกฎหมายได้

 

จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในสถานประกอบการ พบว่าการใส่หมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานสามารถช่วยลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้มากถึง 85% โดยเฉพาะในงานก่อสร้างและงานอุตสาหกรรม ที่มีความเสี่ยงสูงจากการตกของวัสดุหรือเครื่องมือจากที่สูง

 

ประโยชน์ของหมวกนิรภัย

 

หมวกนิรภัยมีประโยชน์ในการปกป้องความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นการป้องกันอันตรายโดยตรง ทำให้อุ่นใจขณะปฏิบัติงานและทำงานได้อย่างประสิทธิภาพ

 

ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะจากวัตถุตกใส่หรือกระแทก

 

หมวกนิรภัยมีโครงสร้างที่แข็งแรงสามารถกระจายแรงกระแทกจากวัตถุที่ตกใส่ศีรษะ เช่น เศษไม้ เศษเหล็ก หรือเครื่องมือต่าง ๆ จึงช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากกระแสไฟฟ้า

 

หมวกนิรภัยบางประเภทผลิตจากวัสดุฉนวนไฟฟ้า สามารถป้องกันไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้ารั่วไหลที่อาจเกิดขึ้นในงานที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้า

 

ช่วยเพิ่มโอกาสรอดจากเหตุการณ์อันตรายในสถานที่ทำงาน

 

การใส่หมวกนิรภัยช่วยปกป้องอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน การสวมหมวกนิรภัยที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตและลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ

 

ช่วยให้มองเห็นผู้ปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในที่มืดหรือมีแสงน้อย

 

หมวกนิรภัยหลายรุ่นมาพร้อมกับสีสันสดใสหรือแถบสะท้อนแสง ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถมองเห็นกันได้ชัดเจนขึ้น ลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุจากการมองไม่เห็นกัน

 

ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดสำหรับงานกลางแจ้ง

 

หมวกนิรภัยมีปีกที่ช่วยบังแสงแดดและลดการสะสมความร้อนบริเวณศีรษะ ทำให้การทำงานในที่แจ้งสบายขึ้นและลดความเสี่ยงจากโรคลมแดด

 

หมวกนิรภัยมีกี่ประเภท ?

 

ประเภทของหมวกนิรภัยแบ่งตามมาตรฐานสากลเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะงานและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยหลัก ๆ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ แบ่งตามความสามารถในการทนแรงกระแทกและการแบ่งตามคุณสมบัติการป้องกันไฟฟ้า

 

การแบ่งประเภทตามลักษณะการทนกระแทก

 

  • หมวกนิรภัย ประเภท 1: ออกแบบให้ทนต่อการกระแทกจากด้านบน หมวกประเภทนี้มีโครงสร้างเปลือกที่แข็งแรง พร้อมกับมีระบบกันกระแทกจากภายในที่จะรองรับแรงกระแทกจากด้านบนเป็นหลัก เหมาะสำหรับงานทั่วไปที่มีความเสี่ยงจากวัตถุตกจากด้านบน
  • หมวกนิรภัย ประเภท 2: ออกแบบให้ทนการกระแทกทั้งจากด้านบนและด้านข้าง หมวกประเภทนี้มีระบบป้องกันที่ครอบคลุมรอบศีรษะ บุด้วยโฟมกันกระแทกพิเศษและใช้วัสดุที่แข็งแรงกว่า เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานก่อสร้างขนาดใหญ่ งานขุดเจาะ

 

การแบ่งประเภทตามคุณสมบัติการป้องกันไฟฟ้า

 

  • หมวกนิรภัย ประเภท E (Electrical): ทนไฟฟ้าแรงสูงได้ถึง 20,000 โวลต์ ผลิตจากวัสดุฉนวนคุณภาพสูง เช่น พอลิเอทิลีน หรือ ABS พิเศษ บุด้วยวัสดุฉนวนทั้งด้านในและคางรัด เหมาะสำหรับช่างไฟฟ้าแรงสูงและงานใกล้เคียงสายไฟแรงสูง
  • หมวกนิรภัย ประเภท G (General): ช่วยลดอันตรายจากไฟฟ้าแรงต่ำได้ 2,200 โวลต์ ใช้วัสดุฉนวนทั่วไป บุด้วยวัสดุฉนวนพื้นฐาน เหมาะสำหรับงานทั่วไปที่อาจมีความเสี่ยงจากไฟฟ้าในระดับต่ำ
  • หมวกนิรภัย ประเภท C (Conductive): ไม่ทนไฟฟ้า เหมาะสำหรับงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า ผลิตจากวัสดุธรรมดา เช่น อะลูมิเนียม หรือเหล็ก บุด้วยโฟมหรือผ้าปกติ ราคาประหยัดและเหมาะสำหรับงานก่อสร้างทั่วไป

 

ความหมายของสีหมวกนิรภัย

 

การเลือกสีหมวกนิรภัยมีความสำคัญในการจำแนกหน้าที่และบทบาทของผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายกำหนดเอาไว้ แต่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีการตกลงใช้มาตรฐานสีที่เหมือนกัน ดังนี้

 

  • หมวกนิรภัยสีเหลือง: สำหรับคนงานทั่วไป ช่างเทคนิค และผู้ปฏิบัติงานระดับปฏิบัติการ
  • หมวกนิรภัยสีขาว: สำหรับผู้จัดการ วิศวกร หัวหน้างาน และผู้มาเยี่ยมชมสำคัญ
  • หมวกนิรภัยสีน้ำเงิน: สำหรับช่างไฟฟ้า ช่างเทคนิค หรือคนงานทักษะพิเศษ
  • หมวกนิรภัยสีเขียว: สำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) หน่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม
  • หมวกนิรภัยสีแดง: สำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ช่างซ่อมบำรุง หรืองานที่เกี่ยวกับความร้อน
  • หมวกนิรภัยสีเทา: สำหรับผู้มาเยี่ยมชมโรงงาน

 

ทั้งนี้ สีของหมวกนิรภัยไม่มีกฎหมายกำหนดตายตัว การเลือกใช้งานเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท

 

วิธีเลือกใช้หมวกนิรภัยให้เหมาะสมกับการทำงาน

 

เลือกใช้หมวกนิรภัยให้เหมาะสมกับลักษณะงาน

 

การเลือกหมวกนิรภัยต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงในงานแต่ละประเภท เช่น งานก่อสร้างต้องใช้หมวกนิรภัยที่มีความแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทกระดับสูง งานไฟฟ้าต้องเลือกหมวกที่มีคุณสมบัติฉนวนไฟฟ้า ส่วนงานในโรงงานอาหารอาจต้องการหมวกที่ทำความสะอาดได้ง่าย

 

สำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูงจากการตกหล่นของวัตถุ ควรเลือกหมวกนิรภัยที่มีโฟมรองในเสริม (Foam Liner) เพิ่มเติมก่อนที่จะถึงตัวรองใน 4-8 จุดแบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถกระจายและดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่า ช่วยลดการส่งผ่านแรงกระทบไปยังศีรษะ ทำให้เพิ่มระดับความปลอดภัยในการทำงานได้

 

เลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีขนาดเหมาะสมกับศีรษะของผู้สวมใส่หมวกนิรภัย

 

หมวกนิรภัยต้องมีขนาดที่พอดีกับศีรษะ ไม่หลวมจนหลุดง่ายหรือคับเกินไปจนทำให้เกิดอาการปวดหัว ควรวัดเส้นรอบวงศีรษะและเลือกขนาดที่เหมาะสม

 

เลือกหมวกนิรภัยที่มีน้ำหนักเบา หาซื้อได้ง่าย ในราคาเหมาะสม

 

หมวกนิรภัยที่ดีควรมีน้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระต่อการทำงาน หาซื้อได้ง่ายเมื่อต้องเปลี่ยนใหม่ และมีราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของสถานประกอบการ

 

เลือกหมวกนิรภัยที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน

 

เลือกหมวกนิรภัยที่สวมใส่และถอดได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานใช้งานได้อย่างสม่ำเสมอ

 

เลือกใช้หมวกนิรภัยที่สามารถปรับระดับสายรัดได้อย่างสะดวกสบาย

 

หมวกนิรภัยสมัยใหม่ มีระบบปรับสายรัดเพื่อช่วยให้สวมใส่ได้พอดีและรู้สึกไม่อึดอัด โดยควรเลือกระบบที่เหมาะสมกับการใช้งาน ได้แก่ แบบปรับเลื่อน และแบบปรับหมุน ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น ควรเลือกระบบที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณของแต่ละบุคคล

 

ซึ่งปัจจุบันสินค้าในตลาด รวมถึงหมวกนิรภัยที่ Esco Premium จำหน่าย จะมีระบบปรับให้เลือกใน 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบปรับเลื่อนและแบบปรับหมุน

 

  • แบบปรับเลื่อน: เป็นระบบที่พบเห็นได้ทั่วไปในท้องตลาด เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่ประหยัด ส่งผลให้ราคาจำหน่ายอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ (ราคาเริ่มต้นประมาณ 40-60 บาท) อย่างไรก็ตาม ในด้านการใช้งานอาจมีข้อจำกัดบางประการ คือ ต้องอาศัยการประสานงานของมือทั้งสองข้างในการปรับตั้ง และจำเป็นต้องหาจุดที่เหมาะสมให้ตัวล็อคยึดเกาะกับขนาดศีรษะ หากการปรับครั้งแรกไม่ได้ขนาดที่พอดี ผู้ใช้จะต้องปลดล็อคออกแล้วทำการปรับใหม่ ซึ่งอาจสร้างความไม่สะดวกเมื่อต้องการปรับแต่งระหว่างการปฏิบัติงาน
  • แบบปรับหมุน: เป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วยกลไกการปรับที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับขนาดได้อย่างละเอียดและแม่นยำ เพียงแค่ใช้มือข้างเดียวหมุนตัวปรับ ก็สามารถหาขนาดที่เหมาะสมกับรูปศีรษะได้ทันที ความสะดวกสบายในการใช้งานนี้ จึงมาพร้อมกับมูลค่าที่สูงกว่าระบบปรับเลื่อนในระดับหนึ่ง

 

การดูแลรักษาหมวกนิรภัย

 

วิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้อง

 

ทำความสะอาดหมวกนิรภัยด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน ๆ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี เพราะอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ โดยให้ล้างทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นอับ

 

จัดเก็บในที่ที่เหมาะสม

 

ควรจัดเก็บให้ห่างจากความร้อนและแสงแดดโดยตรง มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการวางทับซ้อนกันเพื่อป้องกันการเสียรูป ควรมีที่แขวนหรือชั้นวางเฉพาะ

 

ตรวจสอบสภาพหมวกก่อนใช้งานทุกครั้ง

 

ควรตรวจสอบสภาพหมวกนิรภัยก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยมองหารอยร้าว รอยบิ่น หรือความเสียหายอื่น ๆ รวมถึงตรวจสอบระบบรองด้านในและสายรัดว่าอยู่ในสภาพดี ถ้าพบความผิดปกติให้หยุดใช้งานทันที

 

เปลี่ยนหมวกนิรภัยใหม่เมื่อมีความเสียหายหรือเสื่อมสภาพ

 

ควรมีการเปลี่ยนหมวกนิรภัยใหม่หากพบรอยร้าวจากการได้รับการกระแทก หรือมีสัญญาณเสื่อมสภาพ เช่น วัสดุเปราะ สีซีดจาง หรือระบบรองด้านในเสียหาย เพื่อรักษาประสิทธิภาพการป้องกันให้อยู่ในระดับสูงสุด

 

ข้อควรระวังในการใช้งานและการดัดแปลงหมวกนิรภัย

 

หลีกเลี่ยงการดัดแปลงหรือเจาะรูหมวกนิรภัย เพราะจะทำให้สูญเสียประสิทธิภาพการป้องกัน ไม่ควรติดสติกเกอร์หรือสีที่อาจมีสารเคมีที่ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ และไม่ควรใช้หมวกนิรภัยเป็นที่วางของหรือเครื่องมือต่าง ๆ

 

อุบัติเหตุในที่ทำงานสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีหมวกนิรภัยคุณภาพสูงเป็นอุปกรณ์เซฟตี้พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับทุกสถานประกอบการ เลือกซื้อหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม แข็งแรง ทนทาน ผ่านการรับรองความปลอดภัยได้ที่ Esco Premium เราจำหน่ายหมวก Safety อย่างดีในหลากหลายรุ่น เหมาะกับงานทุกประเภท

 

สอบถามเพิ่มเติมหรือติดต่อขอใบเสนอราคาได้ที่

 

Line : @escopremium
Tel : 02-509-0099
E-mail : escopremium@escopremium.com

 

แหล่งอ้างอิง

 

  1. Top 5 Benefits Of Wearing Safety Helmets. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 จาก https://greenworldsaudi.com/top-5-benefits-wearing-safety-helmets/

Share this article

  • Line
  • Facebook
  • Email
  • Copy Link