KNOWLEDGE

อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ที่ควรมีในงานทุกประเภท

ก.ย. 18, 2025

อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE

การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง หรือแม้แต่ในสถานพยาบาล ล้วนต้องเผชิญกับอันตรายทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นแรงกระแทก วัตถุแหลมคม ฝุ่นละอองที่มาพร้อมสารเคมี หรืออุบัติเหตุจากเครื่องจักร อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือ PPE (Personal Protective Equipment) จึงเปรียบเสมือนเกราะด่านแรกที่ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและการสัมผัสสารอันตราย

 

การรู้ว่าอุปกรณ์ PPE มีอะไรบ้าง และเลือกใช้อย่างเหมาะสมกับลักษณะงาน คือกุญแจสำคัญในการทำงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพราะในเรื่องความปลอดภัย “รู้ก่อน ปลอดภัยก่อน” คือหลักที่ทุกคนควรยึดถือ

 

อุปกรณ์ PPE คืออะไร ? ทำไมทุกคนควรรู้จัก

PPE ย่อมาจาก Personal Protective Equipment คือ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมอุปกรณ์หรือเสื้อผ้าที่ใช้เพื่อปกป้องร่างกายจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติงานหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง

 

แม้ว่าตามหลักการสากลของ Hierarchy of Controls PPE จะถูกจัดอยู่ในลำดับสุดท้ายของมาตรการควบคุมความเสี่ยง แต่ก็ยังถือเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญที่สุดในการลดความรุนแรงของอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

 

ตัวอย่างอุปกรณ์ PPE ที่ใช้กันทั่วไปมีอะไรบ้าง ?

 

  • หมวกนิรภัย (Safety Helmet)
  • แว่นตานิรภัย (Safety Goggles)
  • รองเท้าเซฟตี้ (Safety Shoes)
  • ถุงมือกันบาด (Cut-resistant Gloves)
  • ถุงมือ PU
  • เสื้อสะท้อนแสง (Reflective Vest)
  • ชุดป้องกันสารเคมี (Chemical Resistant Suit)
  • หน้ากากกรองอากาศ (Respirator)

 

ทำไมทุกคนควรรู้จักอุปกรณ์ PPE ?

 

  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิต : การสวมใส่อุปกรณ์ที่เหมาะสมจะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ เช่น หมวกนิรภัยช่วยป้องกันศีรษะจากวัตถุตกหล่น แว่นตานิรภัยป้องกันเศษวัสดุกระเด็นเข้าตา
  • สอดคล้องกับกฎหมายด้านความปลอดภัยแรงงาน : นายจ้างต้องจัดหาอุปกรณ์ Safety ที่เหมาะสมกับงานเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน
  • สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ปลอดภัยในองค์กร : เมื่อทุกคนใส่ใจการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ตระหนักถึงความปลอดภัยร่วมกัน
  • ใช้ได้ทั้งในที่ทำงานและชีวิตประจำวัน : อุปกรณ์บางอย่าง เช่น ถุงมือ หรือหน้ากากกันฝุ่น สามารถใช้ในงานซ่อมแซมบ้าน หรือทำความสะอาดได้

 

ประเภทของอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)

 

เพื่อให้เข้าใจว่าอุปกรณ์ PPE มีอะไรบ้าง เราสามารถแบ่งประเภทของอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดังนี้

 

  • อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ : ช่วยป้องกันศีรษะจากการกระแทก วัตถุตกหล่น หรือไฟฟ้า เช่น หมวกนิรภัย (Safety Helmet) ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของงาน
  • อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและใบหน้า : ช่วยปกป้องดวงตาและใบหน้าจากเศษวัสดุ สารเคมี หรือแสงจ้า เช่น แว่นตานิรภัย (Safety Goggles), กระบังหน้า (Face Shield) หรือแว่นตาเชื่อม (Welding Goggles)
  • อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน : ลดผลกระทบจากเสียงที่ดังเกินมาตรฐาน เช่น ที่ครอบหู (Earmuffs) หรือปลั๊กอุดหู (Earplugs)
  • อุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจ : ช่วยป้องกันการสูดดมฝุ่นละออง ควัน ไอระเหย หรือสารเคมี เช่น หน้ากากอนามัย (Surgical Mask), หน้ากากกรองฝุ่น (Dust Mask) หรือหน้ากากกรองสารเคมี (Respirator)
  • อุปกรณ์ป้องกันมือและแขน : ช่วยปกป้องมือจากสารเคมี ความร้อน ความเย็น การบาด หรือการถูกหนีบ เช่น ถุงมือกันบาด (Cut-resistant Gloves) สำหรับงานที่ต้องสัมผัสของมีคม หรือถุงมือ PU ที่ให้ความคล่องตัว
  • อุปกรณ์ป้องกันลำตัวและลำตัวส่วนล่าง : ช่วยป้องกันร่างกายจากความร้อน สารเคมี หรือสะเก็ดไฟ เช่น เสื้อสะท้อนแสง (Reflective Vest), ชุดกันสารเคมี (Chemical Resistant Suit) หรือเอี๊ยมกันไฟ
  • อุปกรณ์ป้องกันเท้า : ช่วยป้องกันเท้าจากการถูกของหล่นทับ การทิ่มตำ หรือสารเคมี เช่น รองเท้าเซฟตี้ (Safety Shoes) ที่มีหัวเหล็กหรือแผ่นกันทะลุ
  • อุปกรณ์ป้องกันการตกจากที่สูง: สำหรับงานที่ต้องปฏิบัติในที่สูง เช่น ชุดกันตก (Full Body Harness) หรือเชือกนิรภัย (Safety Lanyard)

 

อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล PPE

แนวทางเลือกใช้อุปกรณ์ Safety อย่างปลอดภัย

 

การเลือกอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ถูกต้องและเหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยสูงสุด

 

  • เลือกอุปกรณ์ Safety ให้เหมาะสมกับลักษณะงานและอันตรายที่อาจพบ : ก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงของงานก่อน เช่น งานก่อสร้างควรเลือกหมวกนิรภัยที่ทนทาน งานตัดเหล็กควรเลือกถุงมือกันบาด และแว่นตานิรภัยที่ป้องกันเศษเหล็กได้
  • ตรวจสอบมาตรฐานและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ : อุปกรณ์ที่ดีต้องผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น ANSI (American National Standards Institute) หรือ EN (European Standard) เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
  • เลือกขนาดที่พอดีกับผู้ใช้งานและคำนึงถึงความสะดวกสบาย : อุปกรณ์ความปลอดภัยที่มีขนาดไม่พอดีอาจทำให้การทำงานไม่สะดวก หรือไม่สามารถป้องกันอันตรายได้อย่างเต็มที่
  • ฝึกอบรมให้ความรู้ ทั้งวิธีการเลือกและการใช้งานที่ถูกต้อง : การรู้วิธีเลือกซื้ออุปกรณ์ Safety ที่เหมาะกับลักษณะงาน รวมถึงวิธีการสวมใส่ การถอด และการจัดเก็บอุปกรณ์ที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน
  • ดูแลรักษาอุปกรณ์อย่างถูกวิธี : ทำความสะอาดและตรวจเช็กอุปกรณ์อยู่เสมอ หากพบว่าชำรุดหรือเสื่อมสภาพ ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที

 

เลือกอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้

 

การทำงานให้ปลอดภัยเริ่มต้นจากการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นหมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย รองเท้าเซฟตี้ ถุงมือกันบาด หรือถุงมือ PU ที่ Esco Premium พร้อมเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความหลากหลายของสินค้า เราคัดสรรเฉพาะอุปกรณ์ Safety ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน พร้อมให้คุณมั่นใจทุกขั้นตอนของการทำงาน ปลอดภัยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

 

สอบถามเพิ่มเติมหรือติดต่อขอใบเสนอราคาได้ที่

 

Line : @escopremium

Tel : 02-509-0099

E-mail : escopremium@escopremium.com

 

แหล่งอ้างอิง

 

Share this article

  • Line
  • Facebook
  • Email
  • Copy Link